ตำนานพระแม่ลักษมี เทวีแห่งความร่ำรวย ที่มีความงามตามอุดมคติ

ตำนานพระแม่ลักษมี

ตำนานพระแม่ลักษมี คุณลักษณะ ที่มนุษย์ทุกคนถวิลหา

ความงามตามอุดมคติ เป็นคุณลักษณะ ที่มนุษย์ทุกคนถวิลหา กระนั้นมนุษย์เราก็เข้าใจตรงกันว่า แม้จะหาความงามเช่นนั้นจนสิ้นแผ่นดินโลก ก็ไม่มีทางพบได้ นี่เป็นที่มาที่ทำให้มนุษย์ ทั่วทุกมุมโลกนับถือความงาม ดังจะเห็นว่าในทุกวัฒนธรรมและความเชื่อ ล้วนมีเทวี แห่งความงามที่งามเลิศ และแสนดี ไว้บูชากราบไหว้ เพราะเชื่อว่าพระนางจะอวยชัยให้พร ดลบันดาลให้ตนสมปรารถนาได้

 

ฝั่งตะวันตกก็มีเทพีอโฟรไดท์ตี ส่วนฝั่งตะวันออก พระแม่ลักษมี ก็คือที่สุดของพระเทวีแห่งความงาม พระลักษมีได้รับการยกย่องว่า เป็นเทวีที่มีสิริโฉมงดงาม เป็นเลิศที่สุดในสามโลก ทั้งยังเป็นเทวีที่ ทรงคุณด้านความกรุณา ปราณีประดุจมารดามีต่อบุตร เป็นเทวีที่ประทานความมั่งคั่งร่ำรวย และจงรักภักดีในความรักที่มีต่อองค์พระวิษณุมหาเทพ

 

พระแม่ลักษมีเทวีแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยและความรักที่บริบูรณ์

 

พระแม่ลักษมี คือเทวีแห่งความงดงาม ความร่ำรวยและความอุดมสมบูรณ์ พระองค์มักประทานความสำเร็จในการประกอบกิจการ การเจรจาต่อรอง การทำมาค้าขาย การประกอบธุรกิจทุกสาขา ตลอดจนประทานโภคทรัพย์ เงินทองสมบัติแก่ผู้หมั่นบูชาพระองค์และประกอบความดีอยู่เป็นนิจ

 

พระแม่ลักษมี มีกำเนิดจากฟองน้ำ ในคราวเทวดาและอสูร กวนเกษียรสมุทรทำน้ำอมฤตจึงได้นามว่า ชลธิชา (เกิดแต่น้ำ) หรือ กษีราพธิตนยา (ลูกสาวแห่งทะเลน้ำนม) ในขณะที่ผุดขึ้นมานั้นนั่งมาในดอกบัวและมือถือดอกบัวด้วย จึงมีอีกนามหนึ่งว่า ปัทมาหรือกมลา แต่ในคัมภีร์วิษณุปุราณะจะกล่าวไว้ว่าพระแม่ลักษมีเป็นธิดาของพระฤาษีภฤคุกับนางขยาติและยังกล่าวต่อไปอีกว่าพระแม่ลักษมีเป็นมารดา พระกามเทพด้วย

 

พระแม่ลักษมีผู้ศรัทธาจะถือกันว่าเป็น เทพนารีผู้อำนวยโชคมีน้ำพระทัยเมตตาปราณีอยู่เป็นนิจ เป็นตัวอย่างแห่งนางที่งามตลอด ทั้งรูปและกิริยามารยาทมีวาจาเปี่ยม ด้วยเสน่ห์และไพเราะทั้งถือกันว่าเป็นผู้นำมาซึ่งความเจริญทุกประการ นับกันว่าเป็นผู้อุปถัมภ์บรรดาสตรีทุกชั้นส่วนรูปมักเขียนเป็นสตรีที่งามยิ่งมี 2 กรอย่างธรรมดา (บางแห่งก็ว่ามี 4 กร) สีกายเป็นสีทองเสื้อทรงสีเหลืองนั่งหรือยืนบนดอกบัวและมือถือดอกบัว

 

พระแม่ลักษมีมักจะอวตารไปเป็นชายาของพระวิษณุ (พระนารายณ์ผู้ดูแลรักษาโลก) อยู่ทุกครั้งไป เช่น พระวิษณุอวตารเป็น พระราม พระแม่ลักษมีก็ตามไปเกิดเป็น พระนางสีดา  ในปางกฤษณาวตาร พระวิษณุอวตารเป็น พระกฤษณะ พระแม่ลักษมีก็ไปเป็น พระนางรุกมิณี หรือ พระนางราธาเทวี ในปางปรศุรามาวตารก็ไปอวตารเป็น พระแม่ธรณี ในปางวามนาวตารก็อวตารไปเป็น พระนางกมลา เป็นต้น

 

คติความเชื่อถือเกี่ยวในเมืองไทย

อาจเห็นว่า ไม่พบมากนักนอกจากปรากฏใน วรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ที่เสด็จอวตารลงมาเป็นนางสีดาในรามาวตาร ซึ่งเป็นชนวนเหตุของการรบ ระหว่างทศกัณฐ์ กับพระราม นอกจากนั้นก็ไม่พบได้เด่นชัดนัก

นอกจากคติการบูชา เจ้าแม่โพสพ แล้วก็มีการบูชาพระแม่ลักษมีอยู่บ้าง สำหรับผู้ที่เคารพบูชาตามจารีตฮินดู อนุมานอยู่เรื่องหนึ่งที่น่ามี เค้ามาจากพระแม่ลักษมี ตามคติอินเดียก็คือ พระแม่โพสพ เทวีแห่งพืช พันธุ์ ธัญญาหาร ซึ่งคติอินเดีย นั้นเป็นอวตารของพระแม่ลักษมี ในคติลักษมีแปดปางที่ชื่อ ปางธัญญลักษมี มีเทวลักษณะ 4–6 พระกร ขึ้นกับจิตรกรจะวาดออกมา โดยพระหัตถ์ทั้งสองด้านจะทรงรวงข้าวและธัญพืช

ส่วนแม่โพสพของไทยเรานั้น สันนิษฐานมาจากสองคติ คือ ทางหนึ่งมาจาก ธัญญลักษมี ที่กล่าวมา (ดังรูปด้านขวามือ มีปางหนึ่งชื่อ DHANYA LAKSHMI องค์ที่ทรงอาภรณ์สีเขียว) อีกทางหนึ่งว่า เป็นการแบ่งภาคจากพระพรหม มาเป็นเทพเจ้าแห่งพืชพันธุ์ธัญญาหาร โดยการแบ่งภาคนี้หากเป็นเทพบุรุษ ก็เรียกว่า พระไพรศรพณ์ เป็นเทพบุตรรูปงามถือพระขรรค์ ทรงหงส์เป็นสัตว์เทพพาหนะ ส่วน ภาคเทวนารี เป็น พระแม่โพสพ ซึ่งจะเป็นรูปนางงามถือรวงข้าวซึ่งคติอย่างหลังก็น่า จะมาจาก ธัญญลักษมี ของอินเดียเหมือนกัน เพราะตอน

 

ที่พระแม่ลักษมีผุดขึ้นตอนกวนเกษียรสมุทร มีพระพรหมเสด็จมารับเป็นเทพผู้ใหญ่ของพระแม่ลักษมี เพื่อเลือกคู่ ซึ่งก็มีการนำเอาพระพรหมมาเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน

 

นอกจากนี้การกำเนิดพระแม่ลักษมีนั้น ก็เป็นเรื่องราวที่เกิดจารีตประเพณีแต่งงานแบบหนึ่งด้วย กล่าวคือความงามที่เลิศกว่าเทวนารีใดก็มีเทพเจ้าและอสูรมากมายที่หมายปอง จนองค์พระพรหมต้องเสด็จมารับและให้นางเลือกคู่ ครองเองจนพระนางเลือกพระวิษณุเป็นเทพสวามี ซึ่งตรงนี้เองเป็นที่มาของพิธีวิวาห์ แบบหนึ่งที่หญิงต้องไปสู่ขอผู้ชายจากผู้ใหญ่ฝ่ายชาย หรือเป็นผู้เลือกฝ่ายชายเป็นสามีเองที่เรียกกันว่า สยุมพร นั่นเอง

 

คนไทยเรารู้จักพระลักษมี มานานหลายร้อยปี ไม่ว่าจะในงานประติมากรรม จิตรกรรม หรือในบทพระนางสีดา นางเอกในวรรณคดีรามเกียรติ์ เรื่องราวของพระนาง เป็นที่สนใจศึกษาหา ความรู้กันอย่างแพร่หลาย เมื่อมีผู้นับถือองค์เทพในศาสนาพราหมณ์ฮินดูมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะมองมุมใด พระแม่ลักษมีคือเทวี ผู้เปี่ยมด้วยความงามและคุณธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง ของความมีเมตตากรุณา ซึ่งผู้นับถือพระนางสามารถยึดถือ เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จ เจริญรุ่งเรืองตามคำขอพรได้

 

พระแม่ลักษมีเทวีทรงเป็นเทวีแห่งโชคลาภ ที่กล่าวกันว่าทรงอำนาจค้ำจุนอย่างวิเศษ!! มีบันทึกอย่างจารึก Junagdh Inscription ของ Skandagupta กษัตริย์รุ่นปลายของราชวงศ์คุปตะได้กล่าวว่า ด้วยอำนาจแห่งเทวีลักษมีนี่เอง ที่ทรงส่งเสริมอำนาจเทพสวามีคือ พระวิษณุ จนได้ชื่อว่า เทพเจ้าผู้บริหารโลก การบูชาพระแม่ลักษมี จึงมีแพร่หลายทั่วไปในอินเดีย เพราะเชื่อว่าผู้ที่สามารถบูชาจนเป็นที่พอพระทัย เทวีลักษมีจะทรงประทานศิริและความมั่งคั่งให้อย่างน่าอัศจรรย์ใจทีเดียว

ตำนานพระแม่ลักษมี

วันที่บูชาพระแม่ลักษมี

  • ขึ้น 9 ค่ำ เดือนอัษฐะ (มิถุนายน-กรกฏาคม) เป็นการบูชา พระนางสีดา (ลักษมีอวตาร) ร่วมกับ พระราม และ หนุมาน เรียกว่า วันสีดา นวะมี
  • วันแรม 14 ค่ำ เดือนการติก (ตุลาคม-พฤศจิกายน) เป็นวัน พิธีแห่งแสงสว่าง เรียกว่า วันดีปาวลี เชื่อว่าพระแม่ลักษมีเทวีจะโปรดประทานความร่ำรวยแก่ผู้บูชาพระนางและยังมีวันอื่นๆ อีกที่กำหนดให้บูชาพระแม่ลักษมีเทวีในโอกาสที่แตกต่างกันออกไป แต่จุดมุ่งหมายเดียวกันคือ การขอรับพรอันศักดิ์สิทธิ์จากพระนาง ในคุณสมบัติที่พระนางมีอย่างเปี่ยมล้น คือ ศิริ-ความดีงามและความมั่งคั่งร่ำรวยนั่นเอง

 

สิ่งที่พระลักษมีทรงถืออยู่ที่เห็นกันบ่อยที่สุด คือ ดอกบัว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำพระองค์ และมักจะถือไว้ 2 ดอก หรือไม่ก็ทรงถือ หม้อน้ำ พระหัตถ์หนึ่ง อีก พระหัตถ์หนึ่งหงายลงสู่พื้น มีเหรียญทองโปรยปรายลงจากใจกลางพระหัตถ์นั้น หรือไม่ก็เทออกมาจากในหม้อ เป็นสัญลักษณ์ของเทวีแห่งโชคลาภและความร่ำรวย บางครั้งก็จะทรงอาวุธบ้าง เช่น จักร อันบ่งความหมายถึงองค์นารายณ์ (พระวิษณุเทพ) นั่นเอง

 

ในไวษณพนิกาย (ฝ่ายนับถือพระวิษณุเป็นใหญ่) ก็มีตำรากล่าวไว้ว่า เดิมพระวิษณุทรงมีพระชายาถึง 3 พระองค์ คือพระแม่ลักษมี พระแม่สรัสวดี และพระแม่คงคา แต่ทั้งสามพระองค์ไม่ยอมลงให้แก่กัน พระวิษณุเทพจึงทรงแก้ปัญหา โดยยกพระสรัสวดีให้พระพรหม และยกพระคงคาให้พระศิวะ ที่แต่งไว้เช่นนี้ ไม่มีจุดประสงค์อย่างอื่น นอกจากมุ่งจะสอนว่าการมีภรรยามากนั้นไม่ดี และผลพลอยได้ก็คือ การอธิบายเช่นนี้สามารถข่มลัทธิไศวะนิกาย และฝ่ายที่บูชาพระพรหม โดยแสดงให้เห็นว่า พระวิษณุเป็นเจ้าทรงเป็นใหญ่ที่สุด เพราะผู้ใหญ่เท่านั้นที่จะยกทรัพย์สมบัติให้ผู้น้อยได้ แต่เรื่องเช่นนี้ ปัจจุบันไม่ถือเป็นเรื่องจริงจังกันแล้วในประเทศอินเดีย

 

พาหนะแห่งองค์พระแม่ลักษมีมี คือ ช้าง คนอินเดียถือว่า ช้าง เป็นสัญลักษณ์แห่งบุญญาธิการ พลังอำนาจ และความมั่งคั่ง ดังกำเนิดพระลักษมีที่มีช้างโปรยน้ำถวายนั่นเอง นอกจากช้างแล้ว ชาวอินเดียทั้งหลายก็นับถือ เบี้ยจั่น ว่าเป็นสัญลักษณ์ขององค์พระแม่ลักษมีมาแต่โบราณ ซึ่งจะเก่าแก่เท่าใดก็ไม่ทราบได้ แต่อย่างน้อยต้องเก่าถึงสมัยที่ยังใช้เบี้ยจั่นแทนเงินตรากันอยู่ เพราะว่าพระนางทรงเป็นเทวีแห่งโภคทรัพย์ ความร่ำรวย จึงย่อมทรงเกี่ยวข้องกับเงินตรา ซึ่งแทนด้วยเบี้ยจั่นนั้น

 

การที่พระแม่ลักษมี ทรงเกี่ยวข้องกับความร่ำรวย ก็เพราะพระนางทรงเป็นเทวีแห่งความอุดมสมบูรณ์ และความอุดมสมบูรณ์นั้น ถ้าจะมองอีกแง่หนึ่ง ก็หมายถึง พืชพันธุ์ธัญญาหารที่เก็บเกี่ยวได้อย่างมากมาย อีกด้วย ดังนั้นเกษตรกรในอินเดียจึงบูชาพระแม่ลักษมีในภาคที่เป็น พระแม่โพสพ ดังมีพระนามในการนี้โดยเฉพาะว่า พระธัญญลักษมี (Dhanya Lakshmi)

 

มีตำนานเกี่ยวกับพระธัญญลักษมีที่เล่ากันว่า ครั้งหนึ่งเกิดทุกขภัยแห้งแล้งกันดารขึ้นในโลก เวลานั้นแสงอาทิตย์ร้อนแรงจนผู้คนออกจากบ้านไม่ได้ เมื่อถึงยามค่ำคืนบรรดาเกษตรกรจึงพากันบูชาพระวิษณุ หากแต่เวลานั้นพระวิษณุบรรทมหลับอยู่ ไม่ได้ยินเสียงวิงวอนของผู้คนในโลก แต่พระลักษมีทรงได้ยิน และเนื่องจากไม่กล้าปลุกบรรทม พระแม่ลักษมีจึงแบ่งภาคมาเป็น พระแม่โพสพ เพื่อช่วยเหลือมนุษย์โลก โดยทรงนำมหาสังข์ใส้น้ำมาโปรยปรายเป็นฝน และเนรมิตข้าวในนาให้เจริญงอกงาม เป็นที่ปลาบปลื้มยินดีแก่ประชาชนผู้ตกทุกข์ได้ยาก จนเหลือที่จะพรรณนาได้

ตำนานพระแม่ลักษมี

หลาย ๆ คนคงจะปฎิเสธไม่ได้เลยนะ ว่าประเทศไทยของเรานั่น ต่างก็ควบคู่ไปกับด้านของความเชื่อ และด้านของความศรัทธา ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย รวมไปถึงการกราบไหว้ ขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล ทั้งในเรื่องของการงาน การเงิน ความรัก สุขภาพ โชคลาภ และปัดเป่าอุปสรรคต่าง ๆ ทั้งหลายที่เข้ามาในชีวิตต่าง ต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่พึ่งกันทั้งนั้น วันนี้ผู้เขียนจะมาอธิบายถึงตำนานของเทวี พระองค์หนึ่งซึ่งเป็นเทวี ที่ใครหลาย ๆ คนต่างมีการนับถือและมีความศรัทธา ต่อเทวีพระองค์นี้กัน มากมายไม่ว่าจะเป็น ในประเทศอินเดีย หรือในประเทศไทยก็ตาม เทวีพระองค์นี้มีพระนามว่า ” พระแม่ลักษมี ” นั่นเอง

 

พระแม่ลักษมีทรงเครื่องแต่งกาย ที่มีความงดงาม หรูหรา จะประดับด้วยเครื่องประดับต่าง ๆ มากมาย ผิวกายของพระองค์ นั่นจะเป็นสีทองเหลืองอร่าม พระองค์จะประทับลักษณะ แบบนั่งและลักษณะแบบยืน อยู่บนฐานของดอกบัว และทรงถือดอกบัวในพระหัตถ์ ทั้งสองข้าง ซึ่งดอกบัวนั่นเป็นสัญลักษณ์ ของโชคลาภตามหลัก ความเชื่อของอินเดีย พระแม่ลักษมีตามหลักความเชื่อ ของประเทศไทยนั้น เมื่อใครได้ทำ การบูชากราบไหว้ ขอพรและสวดบูชาสรรเสริญ ต่อพระองค์เชื่อกันว่าพระองค์ จะประทานพรในด้านการเงิน โชคลาภ ความเจริญรุ่งเรื่องในหน้าที่ การงานรวมไปถึงด้านความรัก อีกด้วยเพราะพระแม่ลักษมีนั้นพระองค์ จะมีความจงรักภักดีเชื่อมั่นในความรัก ต่อองค์พระนารายณ์เป็นอย่างมาก

 

อ่านบทความอื่นๆ

วิธีสมัครเว็บ “KU16” แทงหวยออนไลน์

ยันต์จีน

มีเลขดี เลขเด็ด เลขมงคล อย่าเก็บไว้คนเดียว ลุ้นสนุกกันได้ง่าย ๆ กับ KU16 แทงหวยออนไลน์ อัตราจ่ายแพงที่สุด สมัครแทงหวยกับ KU16 สมัครง่าย ๆ เพียงแค่ กรอกเบอร์โทรศัพท์ ไอดีไลน์ เท่านั้นเอง !

 

วิธีแทงหวยกับ KU16

ท่านก็จะได้สิทธิ พิเศษ มากมาย โปรดี ๆ สุดพิเศษ ตั้งแต่ ครั้งแรก ที่สมัคร KU16 มา พร้อม กับ ค่าน้ำ สูงที่สุด ในประเทศไทย ให้ท่านได้เพลิดเพลิน กับ การ แทงหวยออนไลน์ หลากหลายรูปแบบ เช่น หวยรัฐบาล หวยลาว หวยไต้หวัน หวยฮานอย หรือ หวยเวียดนาม สมัครเล่นหวยออนไลน์  KUหวย คุ้มค่า ที่สุด อัตราจ่ายสูง หากมีข้อสงสัย สามารถ ติดต่อ เจ้าหน้า KU16 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตามข่าวสารที่ : KU16_Official

Leave a Reply

Your email address will not be published.